เรือใบ ฟอร์มร้อนแรง กดไก่เดือยทองไป 4 - 2 รั้งอันดับ 2 ตาราง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนไก่เดือยทอง สเปอร์ ไปอย่างสุดมัน ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีค ตามหลังที่ 1 เหลือเพียง 5 แต้มเท่านั้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ของตาราง ต้องมาเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไก่เดือยทอง “Totham Spur” ทีมอันดับ 5 ในตางราง ที่ฟอร์มยังไม่ร้อนแรงเท่าไรนัก และนัดล่าสุดในเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ กับอาเซน่อล ก็เพิ่งจะแพ้แบบหมดรูป แต่ก็ไม่ต่างกันกับเจ้าบ้าน ที่เพิ่งแพ้ในเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ไป 2 - 1 แบบสุดดราม่า 

สเปอร์ ของอันโตนิโอ คอนเต้ ต้องชนะเพื่อหนีอันดับ 6 อย่าง ฟูแลม ที่กำลังทำแต้มไล่จี้เข้ามาอย่างกระชั้นชิด แต่คงจะทำได้ยาก เมื่อนัดนี้ต้องมาพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คุมบังเหียนโดย เป๊บ กวาร์ดิโอล่า แม้จะกำลังอยู่ในช่วงสะดุด ทำให้ห่างจากจ่าฝูงถึง 8 แต้ม แต่นั่นก็ไม่ใช่งานง่ายเลย สำหรับทีมเยือน

ทางเจ้าบ้านมาด้วยแผน 4-4-2 นำทัพโดย กุนโดกัน และหัวหอกตัวเก่งอย่าง ฮาแลนด์ ยืนคู่กับ อัลวาเลซ ของทีมแชมป์โลก อาเจนตินา ส่วนสตาร์อย่าง เดอ บรอยน์ เป็นตัวสำรอง

ทีมเยือนมาด้วยแผน 3-4-3 โดยใช้แผงหน้าเป็นสามประสานชุดเดิม จากเกมที่แพ้ อาเซน่อล  แต่เปลี่ยนชุดแดนกลางไป 3 คน เหลือเพียง ฮอยจ์เบียร์ 

เริ่มเกมได้ 18 นาที เจ้าบ้านมีโอกาสได้ลุ้นก่อนจาก จังหวะที่กุนโดกัน ตั้งป้อมยิงด้วยเท้าขวา ปั่นโค้งๆ หลุดกรอบออกไป แบบพอได้ลุ้น

จังหวะต่อมาเป็นทางทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะเตะมุมที่ คูรูเซฟสกี้ ไหลบอลมาเข้าทาง เอเมอร์สัน ได้ซัดเต็มข้อ แต่หลุดกรอบออกไป

เหมือนจะเป็นเกมของทางทีมเยือน ที่ได้โอกาสอีกครั้ง จาก เดส์วี่ย์ เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ให้ ซน เฮือง มิน สะบัดเน้นๆ แต่บอลไปเข้ามือ แอเดอร์ซอน รับสบายๆ

หลังจากนั้นเป็น ฝั่งเจ้าบ้านได้ลุ้นโอกาสทอง สองจังหวะติดๆ ของ เออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์ แต่ติดเซฟ ไปทั้ง 2 ลูก อย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นจะเป็นจังหวะส้มหล่นของทางทีมเยือน เมื่อกองกลางของทีมเยือน ไปตัดบอลจากหน้าประตูได้ ก่อนจะส่งให้กับ คูรูเซฟสกี้ ซัดเน้นๆ เข้าประตูไป ในนาที่ 44 ก่อนหมดเวลา เพียง 1 นาที

เหมือนสเปอร์ยังคงร้อนแรง เพียง 2 นาทีจากจังหวะก่อนหน้าที่ได้ประตู แฮรี่ เคน ตัดบอลเข้ากลางกรอบเขตโทษ ได้ซัดไปก่อนหนึ่งจังหวะ ก่อนจะติดเซฟ แต่บอลลอยไปเข้าทาง เอเมอร์สัน โหม่งสวนเข้าไปเต็มๆ เป็น 2 - 0 เพียง 2 นาที

เริ่มครึ่งหลังเพียง 5 นาที ริห์ยาร์ด มาเรซ ปีกตัวเก่ง ของเจ้าบ้าน แตะหลบผู้เล่นของสเปอร์ ก่อนจะกระชากไปจนสุดเส้นแล้วเปิดขึ้นมา ให้กับเพื่อนในกรอบเขตโทษ ได้โหม่งแต่ยังไม่เข้าประตู มีซ้ำดาบสองก็ยังติด จนสุดท้าย อัลวาเรซ ซ้ำเข้าไปเน้นๆ ตีไข่แตกเป็น 1 - 2 ในนาทีที่ 51

หลังจากนั้นเพียง 2 นาที ริหยาร์ด มาเรซส่งบอลให้ โรดรี้ ตักบอลข้ามหัวผู้เล่นคืนมา ก่อนจะโหม่งชงให้กับเด็กปีศาจ โหม่งสวนเข้าไป ตีเสมอเป็น 2 - 2 ประตู

นาทีที่ 62 ปีกพ่อมดคนเดิม ปั๊มบอลกับผู้เล่นของสเปอร์ได้ ก่อนจะลากจี้เข้ากรอบเขตโทษ และบรรจงซัดเข้าประตูไป ส่งผลให้เรือใบสีฟ้า ขึ้นนำเป็น 3 - 2 ประตู

ก่อนจะหมดเวลาปกติเพียง 1 นาที แอเดอร์ซอน เปิดบอลจากประตูให้กับมาเรซ วิ่งเอาชนะกองหลังของสเปอร์ และหลุดไปชิบนิ่มๆ ข้ามหัว ยอริส อย่างสวยงาม เป็น 4 - 2 ประตู ก่อนจะจบเกมทันที

ก็ยังครองอันดับที่ 2 ได้อย่างเหนียวแน่น สำหรับเจ้าบ้านอย่าง Manchester City ไล่จี้อันดับ 1 เหลือเพียง 5 คะแนนเท่านั้น ซีซั่นนี้กำลังสนุกขึ้นเรื่อยๆ ต้องรอติดตามกันต่อไป

บอลสด,ผลบอลย้อนหลัง,แมนเชสเตอร์ ซิตี้,ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์,พรีเมียร์ลีก