“หงแดง”เปิดบ้านเจ๊า “สิงโตน้ำเงินคราม” ไปอย่างสนุกในเกมลีค
ลิเวอร์พูล มีคิวต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีค ก่อนจะเสมอกันไปอย่างสุดมัน แม้จะยิงไม่ได้ แต่เป็นการแบ่งแต้มแบบ พอใจทั้งสองฝ่าย
หงษ์แดง “ลิเวอร์พูล” เปิดแอนด์ฟิล รับการมาเยือนของยอดทีมแห่งลอนดอน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่มีโปรแกรมเตะต้องมาเจอกัน ก่อนเริ่มทั้งสองทีมมีแต้มเท่ากันที่ 28 แต้ม แต่ลิเวอร์พูล มีลูกได้เสียที่ดีกว่า มีการคาดการณ์เอาไว้มากมาย ว่าเกมนี้จะไม่จบที่ผลเสมอ ต้องมีทีมใด ทีมหนึ่ง สามารถเก็บชัยได้ สุดท้ายเป็นการแบ่งแต้มกันคนละ 1 แต้มอย่างสุดมันส์ แลกกันอย่างสูสี ไม่ได้เปิดเกมมาเพื่อรับอย่างเดียว
วันนี้เจ้าบ้าน มาในแผน 4-3-3 โดยแผงหลัง 4 ตัว ฝั่งขวาและซ้าย เป็น เจมส์ มิลเนอร์ - โรเบิร์ตสัน มี โกนาเต และ โกเมซ ยืนเป็นปราการหลังตัวกลาง แผงกลาง 3 ตัว เป็น เกอิตา บาเซติช และ ติอาโก้ แนวรุก 3 ตัว ยังคงเป็น ซาลาห์ กองหน้าตัวใหม่อย่าง กักโป และ ดาวรุ่งอย่าง เอลเลียต
ทีมเยือนมาในรูปแบบ 3-4-2-1 แนวรับ 3 ตัว นำทีมมาด้วยจอมเก๋าอย่าง ซิลวา หนีบรุ่นน้องทั้งสองอย่าง บาดียาซิล - ชาโลบาห์ ยืนเป็นปราการหลัง 3 ตัว โดยมี ลูอิส ฮอล - จอร์จินโญ่ คอยช่วยในเกมรับ ซ้ายและขวาเป็น มาร์ค คูคูเรย่า ร่วมกับ ฮาคิม ซีเย็ค แนวรุกเป็น ลูกหม้อของทีมอย่าง เมสัน เมาท์ และผู้เล่นที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักอย่าง คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ โดยมี ไค ฮอาแวตซ์ ยืนเป็นกองหน้าค้ำอยู่
เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที ทางเชลซี ยิงประตูขึ้นนำ 1 - 0 จากจังหวะเปิดมุมที่ กัลลาเกอร์ เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนเจ้าบ้านจะโหม่งเคลียร์ แต่บอลยังไม่ไปไหน และไหลมาเข้าทาง ซิลวา ยิงไปติดเซฟ ก่อนที่ ไค ฮาแวตซ์ จะซ้ำจ่อๆ เข้าไป 1 - 0 แต่ดีใจได้เพียงแปปเดียว มีเสียงจากผู้ช่วยกรรมการในห้อง VAR แจ้งว่า จังหวะ ฮาแวตซ์ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
เมื่อไม่ได้ประตู อีก 2 นาทีต่อมา เป็นทางเจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นบ้างจากจังหวะที่ ซาล่าห์ กระชากไปสุดเส้น ก่อนจะเปิดกลับมาให้ โคดี้ กักโป ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแรงข้ามคานออกไป
หลังจากนั้น กักโป ได้โอกาสที่สองจากจังหวะผิดพลาดของ ลูอีส ฮอลล์ เสียบอลหน้ากรอบ 18 หลา แต่ยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะต่อมาเป็นทีมเยือนที่ได้โอกาสบุกบ้าง หลังจาก ซีเย็ค ผ่านบอลให้ฮาแวตซ์พักบอลและส่งต่อให้ เมาท์ ดึงจังหวะไว้เล็กน้อย ส่งต่อให้ ลูอีส ฮอลล์ ซัดเต็มข้อ แต่บอลเรียดเสา ออกไป ทำให้สกอร์ยังเป็น 0-0 อยู่
หลังจากนั้นทั้งสองทีม มีโอกาสแลกกันไปมา แต่ก็ยังไม่เป็นประตู ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยผล 0 - 0 เป็นทางทีมเยือนได้บุกมากกว่า และมีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า
เริ่มครึ่งหลังมา เชลซี ส่งนักเตะคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาอย่าง “มิไคโล มูดริก” ปีกชาวยูเครน มาเสริมความร้อนแรงของเกมรุก และเกือบจะเป็นการเปิดตัวในฝัน เมื่อนาทีที่ 63 มูดริก รับบอลจาก กัลลาเกอร์ ที่ล้มลงไป ก่อนจะล็อคหลบทีมเจ้าบ้านไป 3 คน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่นิ่ง บอลเข้าหน้าต่าง ออกหลังไป
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านเร่งเครื่อง เพื่อจะเก็บ 3 แต้มในบ้านให้ได้ ทำให้มีโอกาสบุกไปจบสกอร์หลายครั้ง แต่บอลก็ยังไม่สามารถทำอะไร เชลซีได้เลย ก่อนจะโดนสวนกลับเร็ว เกือบเสียประตู แต่ก็ยังคงช่วยกันได้ ทำให้จบที่ผลเสมอ ไปจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็ยังกินกันไม่ลง
จบเกม เชลซี บุกไปเสมอ ลิเวอร์พูลได้คารัง แบ่งกันไปคนละแต้ม ทำให้ ลิเวอร์พูลอันดับขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 8 มี 29 คะแนน ผลต่างประตู +9 ส่วนทีมเยือนอย่างเชลซี มีคะแนนอยู่ที่ 29 คะแนน แต่มีผลต่างประตูเพียง +1 เท่านั้น
ดูบอลสด,ผลบอลย้อนหลัง,เชลซี,ลิเวอร์พูล,พรีเมียร์ลีก,บอลย้อนหลัง